ช่วงนี้หลายคนมีความคิดที่จะซื้อแอร์ใหม่ เพราะแอร์ที่ใช้งานอยู่นั้น มีอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี แล้ว พูดง่าย ๆ แอร์เก่านั้นเอง ถ้าเรายังคงฝืนใช้แอร์เก่าต่อไป สิ่งที่จะตามมาคือรายจ่ายของค่าไฟฟ้า เพราะแอร์เก่าประสิทธิภาพการทำงานให้ความเย็นจะลดน้อยลงแถมยังกินไฟอีกด้วย ในบทความนี้เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อแอร์ใหม่อย่างไร ให้ได้แอร์ที่คุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไป
วิธีการเลือกซื้อแอร์ใหม่ มีดังนี้
1.ต้องทำมาจากวัสดุที่แข็งแรง และมีความทนทาน
การที่เราเลือกซื้อแอร์ใหม่ที่ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง และทนทาน จะทำให้เราได้แอร์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถทนต่อสภาวะอากาศ และสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะส่วนของคอยล์เย็น และคอยล์ร้อน ทั้งสองส่วนนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยทำความเย็นนั้นเอง ในปัจจุบันนั้นแอร์มีหลายยี่ห้อมาก ๆ บางรุ่นพวกคอยล์ทำมาจากอลูมิเนียม อันที่จริงแล้วคอยล์ที่มีความแข็งแรงมากที่สุด ต้องทำมาจากทองแดง เพราะจะถ่ายเทความร้อนได้ดี และดูแลรักษาได้ง่าย
2.ระบบทำความเย็นที่ตอบโจทย์ตรงใจกับไลฟ์สไตล์ของเรา
แม้ว่าเราจะมองหาแอร์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องไม่ลืมที่จะดู คือควรเลือกแอร์ที่ให้ความเย็นถูกใจเรามากที่สุด เช่น แอร์ระบบ Inverter แอร์ที่เน้นการทำความเย็นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงความประหยัดพลังงาน หรือแอร์ระบบ Fixed Speed ที่เน้นการทำความเย็นรวดเร็วทันใจ เหมาะสำหรับคนขี้ร้อน ที่ต้องการแอร์ที่เย็นทันทีเมื่อเปิด
3.ฟีเจอร์การทำงาน
แอร์ยุคใหม่นี้ ไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำความเย็นเพียงอย่างเดียวแล้วเท่านั้น ผู้ผลิตแอร์ยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเยอะมาก เช่น แอร์ทำความสะอาดอัตโนมัติ ฟอกอากาศได้ด้วยตัวเอง หรือสามารถจำกัดพวกเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อแอร์ ก๋ควรเลือกแอร์ที่มีฟีเจอร์พิเศษพวกนี้ด้วย เพราะจะทำให้เรามีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
4.การรับประกัน
แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ดังนั้นเมื่อเราจะเลือกซื้อแอร์ ควรเลือกซื้อกับร้านที่มีการบริการหลังการขาย มีการรับประกันแอร์ของเราด้วย นี้คือเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก