แอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ เมื่อเราใช้งานไปได้สักระยะหนึ่ง แอร์ของเราจะต้องเกิดปัญหาให้เราต้องทำการซ่อมแซมแก้ไข ซึ่งปัญหาของแอร์นั้นมีทั้งที่ไม่ซับซ้อนอันนี้เราก็สามารถแก้ไขเองได้ แต่ถ้าเกิดเจอปัญหาที่ยากซับซ้อน กรณีแบบนี้แนะนำว่าเราควรจ้างช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ มาแก้ไขให้เราเองจะดีกว่า ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ การเลือกใช้บริการช่างแอร์อย่างไร ไม่ให้โดนโกง ได้ช่างแอร์ที่มีคุณภาพ
5 เคล็ดลับในการเลือกช่างแอร์ มีดังนี้
พิจารณาประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ
สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบคือประสบการณ์การทำงานของช่างซ่อมแอร์ ดูว่ามีประสบการณ์การทำงานด้านนี้มากน้อยแค่ไหน หากเป็นบริษัทที่ให้บริการซ่อมแอร์ต้องดูด้วยว่าบริษัทนั้นจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือ มีเอกสารหรือใบประกอบวิชาชีพที่ได้รับรองตามมาตรฐานทั่วไปหรือไม่
การว่าจ้างบุคลากรหรือบริษัทที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเครื่องปรับอากาศเกิดขัดข้องหรือมีปัญหาอื่นตามมาภายหลัง คุณจะได้แจ้งหรือเรียกร้องได้ โดยเฉพาะกรณีที่อุปกรณ์ได้รับความเสียหายจากการซ่อมแซมของช่างโดยตรง ก่อนตกลงว่าจ้างงานกันจึงควรสอบถามรายละเอียดส่วนนี้ เงื่อนไขการรับประกันและบริการหลังการขาย รวมทั้งเอกสารรับรองการทำงานของช่างหรือบริษัทให้ชัดเจน
ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
“รีวิว” ถือเป็นโฆษณาที่ไม่ต้องโฆษณาคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการที่น่าเชื่อถือไม่แพ้กัน เพราะกลั่นกรองมาจากประสบการณ์ตรงของผู้ใช้งานจริง คุณอาจเริ่มหาช่างซ่อมแอร์บ้านหรือบริษัทที่มีบริการดังกล่าวจากการอ่านรีวิวหรือการบอกต่อของผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อนก็ได้
อย่างไรก็ตาม ก็ควรฟังหูไว้หู เพราะรีวิวทุกรีวิวก็ไม่ได้น่าเชื่อถือเสมอไป บางรีวิวก็เขียนค่อนข้างสั้น อาจจะไม่ได้ครอบคลุมทุกด้านของการบริการที่ทำให้เราเห็นได้ว่า “ช่างซ่อมแอร์” คนนี้ หรือบริษัทนี้ดีจริง
ทั้งนี้ หากมีรีวิวเชิงลบหรือวิจารณ์เกี่ยวกับการให้บริการแนวเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ คุณต้องเก็บเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แล้วมาเปรียบเทียบน้ำหนักดูว่าจะเลือกใช้บริการหรือไม่
ราคา
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ “ราคา” จริงอยู่ที่คนเรามักชอบของถูก แต่ต้องดูด้วยว่าของถูกนั้นมาพร้อมสิ่งที่ดีด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่แล้ว การให้บริการที่มีราคาถูกเกินไปมักมาพร้อมกับการจบงานที่ไม่ละเอียดและทิ้งปัญหาไว้ภายหลัง คุณจึงควรศึกษาตลาดค่าแรงของช่างซ่อมแอร์ว่าตกอยู๋ที่เท่าไหร่โดยประมาณ
โดยอาจอิงจากประสบการณ์ของช่างเป็นหลัก เพื่อดูว่าสายงานช่างซ่อมแอร์ที่มีประสบการณ์เท่านี้มักเรียกค่าจ้างต่องานมากน้อยแค่ไหน หากมีค่าอุปกรณ์เสริมที่เราต้องจ่ายเองกรณีเปลี่ยนอะไหล่บางตัว ก็ต้องรู้ด้วยว่าอะไหล่ตัวนั้นราคาเท่าไหร่ เพื่อนำมาใช้คำนวณให้ได้ราคาที่ใกล้เคียง ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
ที่สำคัญหากคุณกำลังมองหาบริษัทที่ให้บริการซ่อมแอร์ ก็ควรดูด้วยว่าบริษัทนั้นมีข้อเสนอราคาพิเศษหรือโปรโมชันหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องสอบถามรายละเอียดหรือเงื่อนไขอื่น ๆ ให้แน่ใจว่าครอบคลุมบริการส่วนไหนบ้าง
รายละเอียดว่าจ้างและเงื่อนไข
เนื่องจากราคาจ้างช่างของแต่ละที่แตกต่างกัน คุณจึงควรทำสัญญาลงรายละเอียดและเงื่อนไขว่าจ้างให้ละเอียดและเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะการว่าจ้างปากเปล่าหรือติดต่อทางโทรศัพท์อาจนำมาสู่การสื่อสารคลาดเคลื่อนได้ นอกจากนี้ คุณควรดูรายละเอียดของเรื่องการรับประกัน อุปกรณ์หรืออะไหล่ที่นำมาเปลี่ยนแทนของเดิม (ถ้ามี) วันเริ่มงานและจบงาน
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจ้างได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อตกลงรับงานกันเรียบร้อยแล้ว ต้องตรวจสอบรายละเอียดการทำงานอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาแอร์เสียคืออะไร ซ่อมตรงไหนบ้าง และค่าใช้จ่ายในการซ่อมทั้งหมดเท่าไหร่ เพื่อลดความเสี่ยงการสื่อสารผิดพลาดให้มากที่สุด
เงื่อนไขการบำรุงรักษา
แม้ว่าคุณอาจไม่ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ตั้งแต่มองหาช่างซ่อมแอร์ตั้งแต่แรก แต่การบำรุงรักษาหลังให้บริการก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่ต้องพิจารณาควบคู่ด้วย โดยทั่วไปแล้ว ช่างซ่อมแอร์มืออาชีพหรือบริษัทที่ให้บริการด้านนี้จะมีบริการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศให้อยู่แล้ว ซึ่งมักมาในรูปแบบสัญญารายปี คุณสามารถโทรติดต่อช่างและแจ้งปัญหาได้โดยตรง รวมทั้งรับทราบรายละเอียดบริการและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามสมควร