สภาพอากาศในประเทศไทยนับวันยิ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากยิ่งขึ้น นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายบ้านส่วนใหญ่หันไปพึ่งพาตัวช่วยความเย็นจากแอร์ เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยปรับเปลี่ยนสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวกลายเป็นอากาศที่เย็นลดความร้อนได้ทันที มีการเก็บสถิติสำรวจพบว่าแต่ละบ้านจะมีการเปิดใช้งานแอร์เฉลี่ยนอย่างน้อย ประมาณ 8 – 13 ชั่วโมงต่อวัน ปกติแล้วแอร์ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างคงทน แต่ในบทความนี้เราจะมาบอกถึงสาเหตุที่ทำให้แอร์บ้านเสียเร็ว แถมยังกินไฟมาก ส่วนจะมีสาเหตุอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
4 สาเหตุที่ทำให้แอร์บ้านเสียเร็ว มีดังนี้
1.เลือกใช้งานBTU ที่ไม่เหมาะสมกับขนาดของห้อง
BTU เป็นหน่วยวัดอย่างหนึ่ง ยิ่งขนาดของ BTU มากเท่าไรนั้นแสดงว่าสามารถให้ความเย็นได้มาก แต่เราก็จำเป็นที่จะต้องเลือก BTU ให้สอดคล้องกับห้องที่เราจะทำการติดตั้งแอร์ไว้ด้วย เพราะถ้าเราเลือกขนาดของ BTU ไม่เหมาะสมกับห้อง มีโอกาสที่แอร์จะทำงานหนัก ส่งผลให้แอร์เสียเร็ว
2.ท่อน้ำยาแอร์ยาวจนเกินไป
ความเย็นของแอร์นั้น ปัจจัยอย่างหนึ่งที่หลายคนไม่คาดคิด คือระยะท่อน้ำยาแอร์ที่อยู่ภายในบ้าน กับคอมเพรสเซอร์แอร์ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไรยิ่งทำให้แอร์ทำความเย็นได้ดี แต่ถ้าระยะท่อของแอร์ยาวจนเกินไปนั้น ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ซึ่งทำหน้าที่อัดแรงดันน้ำยาแอร์ ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะต้องเพิ่มแรงดัน ส่งผลให้แอร์เย็นช้าและทำงานหนัก เป็นต้นเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากกว่าปกติ และสุดท้ายแอร์ และคอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพไว
3.ติดตั้งแอร์ใกล้ความชื้น
แอร์มีหน้าที่หลักในการกำจัดความชื้นเพื่อก่อให้เกิดความเย็น หากเราเลือกติดตั้งแอร์ใกล้กับแหล่งความชื้น จะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น พราะต้องคอยกำจัดความชื้นตลอดเวลา และการติดตั้งควรเว้นระยะห่างระหว่างแอร์กับฝ้าเพดานประมาณ 15-20 cm เป็นระยะห่างที่เหมาะสม
4.ไฟตก ไฟกระชาก
อาการไฟตก ไฟกระชาก จะเกิดขึ้นเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ถ้าหากว่าบ้านไหนก็ตามเกิดปัญหาไฟตก ไฟกระชากอยู่บ่อย ๆ บอกได้เลยว่านี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ของคุณเสียเร็วอย่างมาก วิธีการแก้ปัญหาแนะนำให้ใช้แอร์รุ่นใหม่ที่มีระบบป้องกันไฟกระชากจะช่วยถนอมให้แอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น